Pages

Subscribe:

อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน โรคภูมิแพ้

โรคสุดฮิตของคนกรุงก็คงต้องเป็น "โรคภูมิแพ้" เนี่ยแหละค่ะ เพราะสมัยนี้จะว่าไปแล้ว มลภาวะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฝุ่นเยอะ เชื้อโรคมากในอากาศ จะออกไปข้างนอกแต่ละทีก็ต้องป้องกันตัวเองสุดฤทธิ์ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ต้องป้องกันกันขนาดนี้ หากไม่ป้องกันอาจเกิด โรคภูมิแพ้ หรือ โรคอื่น ๆ ตามมาได้ แต่ไม่เป็นไรนะค่ะเรามาเริ่มวิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ด้วยการรับอาหารกันดีกว่า เพราะนอกจาจจะช่วยฟื้นฟูแล้วยังเป็นการป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ อีกด้วย นั้นเรามาดู วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้ กันเลยค่ะ

วิธีการรักษาโรคภูมิแพ้
- อาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน ผักและผลไม้มีสารแอนตี้ออกซิแดนต์ในการช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงเพื่อมีแรงต่อสู้กับโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะการกินผักและผลไม้หลากสีสัน เช่น สีแดง สีส้ม สีเหลือง สีเขียว หรือสีม่วง
- ควรกินข้าวกล้อง เพราะสีน้ำตาลหรือสีแดงที่เคลือบข้าวกล้องคือสารแอนตี้ออกซิแดนต์ชั้นยอด ส่วนข้าวขาวนั้นมีแต่แป้งและน้ำตาล
- อาหารต้านการอักเสบ เมื่อเป็นโรคภูมิแพ้ก็จะมีการอักเสบภายใน อาหารที่จะช่วยรักษาอาการอักเสบก็คือปลาทะเลน้ำลึก (มีกรดไขมันโอเมก้า 3) ถั่ววอลนัต และถั่วเหลือง
- ดีท็อกซ์ตับ ตับมีหน้าที่ขับสารพิษออกจากร่างกายเมื่อตับแข็งแรงและทำงานได้ดีก็จะช่วยให้อวัยวะส่วนอื่นๆ ในร่างกายมีสุขภาพดีไปด้วย อาหารที่ช่วยตับขจัดสารพิษก็คือผักและผลไม้ที่มีรสขม เช่น มะระ ส้มโอ หน่อไม้ฝรั่ง
- ภูมิแพ้อาหาร อาการภูมิแพ้ส่วนใหญ่มักเกิดจากอาหารที่กินแล้วเกิดการสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ เมื่อพบว่าแพ้อะไรก็ให้หยุดกินอาหารที่แพ้เป็นเวลาหนึ่งเดือนเพื่อให้ระบบต่างๆ ของร่างกายกลับสู่สมดุล


อาการของโรคภูมิแพ้
นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ อ่อนเพลียโดยไม่รู้สาเหตุ มีอาการคันแบบเป็นๆ หายๆ มีน้ำมูกไหลตอนเช้า จาม และคัดจมูก

การป้องกันโรคภูมิแพ้
- ออกกำลังกายอย่างน้อยที่สุดสัปดาห์ละ 3 วัน และนั่งสมาธิ
- มีไลฟ์สไตล์ที่สมดุล นั่นคือนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่และกินอาหารที่มีประโยชน์
- อาหารที่แนะนำก็คือ ผักและผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ข้อสำคัญคือขณะกินอาหารให้มีสมาธิกับการกิน ไม่ใช่กินไปทำงานไปหรือกินไปเดินไป เพราะเมื่อเรากินไปทำงานไปเลือดก็จะไปเลี้ยงที่สมองและออกซิเจนก็จะไปที่สมองทำให้กระเพาะอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่ส่งผลให้ระบบการย่อยมีปัญหาเพราะใช้พลังงานผิดที่ผิดทาง
- การทำอาหารกินเองจะดีกับกระเพาะอาหาร เพราะขณะที่เตรียมทำอาหารก็เหมือนเปิดปุ่มสัญญาณให้มีการหลั่งน้ำย่อย เมื่อเราปรุงเสร็จแล้วกินก็จะทำให้มีการย่อยดีซึ่งจะช่วยให้ระบบการย่อยมีความสมดุล



ที่มา Lisa
ที่มารูป bloggang.com,joelookyoung.com

0 comments:

Post a Comment

Ads

ของขวัญ